28 ธันวาคม 2551

ช่าง..ช่าง..! 30 หรือ 50 ใครเจ๋งกว่ากัน



หน้าที่ “วาล์วไอดี” ทำหน้าที่เปิดให้ส่วนผสมของน้ำมันกับอากาศที่เรียกว่า “ไอดี” เข้ามาในกระบอกสูบด้วยการดูดของลูกสูบหรือการยัดอากาศของ Turbo และในจังหวะอื่นของเครื่องยนต์เช่น อัด, ระเบิด, คาย จะต้องปิดสนิทส่วน “วาล์วไอเสีย” ทำหน้าที่เปิดให้ส่วนผสมดังกล่าวที่ถูกเผาไหม้แล้วออกจากกระบอกสูบด้วยการดันของลูกสูบและในจังหวะอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันกับวาล์วไอดีคือ จะต้องถูกปิดสนิท หลักการวาล์วไอดีจะต้องเปิดก่อนลูกสูบขึ้นกี่องศานั้นขึ้น

เป็นผู้กำหนดและคิดคำนวณทำนองเดียวกันกับวาล์วไอเสียเปิดและปิดเครื่องยนต์ในแต่ละเครื่องจึงแตกต่างกันในเรื่องหลักการ ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาเพื่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ เช่นเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันอาจจะต้องการองศาที่เปิดวาล์วที่นานขึ้น แน่นอนว่าทั้งหมดย่อมขึ้นอยู่กับองศาของเพลาเครื่องยนต์หวงนักหวงหนา

ที่อยู่ของวาล์ว จุดมุ่งหมายของที่อยู่นี่หมายถึง “บ่าวาล์ว” คือการที่วาล์วจะปิดสนิทดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ “องศา” ของบ่าวาล์วเป็นสำคัญ โดยทั่วไปแล้วนักวิชาการหรือผู้ผลิตเครื่องยนต์นั้นออกแบบมาให้องศาของบ่าวาล์วอยู่ที่ 35, 40, 45 และ 50 องศาเป็นต้น ทั้งมุมบ่าวาล์วมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ต่างก็สามารถทำให้วาล์วรั่วได้เหมือนกัน มาตอนนี้ท่านผู้อ่านคงอยากจะทราบว่ามุมของบ่าวาล์วที่กี่องศาจะดีที่สุด ยากที่จะตอบได้ครับ ยากที่จะนำคำว่า “ที่สุด” มากล่าวกัน เพราะต่างคนต่างมีเหตุผลที่จะใช้เครื่องยนต์นั้น ๆ เป็นของตัวเอง เช่นใช้เพื่อนการแข่งขัน, ใช้เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือแบบทูอินวันเป็นต้น


ฉะนั้นผมขอฟันธงเป็น 45 องศาแล้วกันเผื่อจะได้นำการใช้งานทั้งสองแบบมารวมกันแบบทุอินวัน เหตุผลเพราะ ถ้ามุมประมาณ 35 องศา ท่านที่เข้าใจในเรื่องของบรรยากาศอาจคิดว่าสามารถทีจะปิดรั่วได้ดีกว่ามุม 50 องศา แต่ค่าของความเป็น Turbulence ของวาล์วที่ทำมุม 50 องศาจะน้อยกว่าวาล์วที่ทำมุม 35 องสา จึงทำให้วาล์วที่ทำมุม 50 องศา อากาศสามารถจะไหลลื่นได้ดีกว่าในทางตรงกันข้าม มุม 50 องศา ปิดได้ไม่ดีเท่ากับ 35 องศา แต่หากว่าเข้าใจในหลักการทางเครื่องยนต์แล้วอาจจะคิดว่ามุม 35 องศาเป็นมุมที่สามารถให้อากาศไหลเข้าไม่ดีเท่ามุม 50 องศาและอีกหนึ่งเหตุคือลักษณะของวาล์วที่ทำมุม 50 องศาจะมีลักษณะที่เป็นมุมแหลมและเป็นลิ่มเมื่อเวลาเปิดแล้วอาจจะปิดไม่แน่นกับบ่าวาล์วมากเกินไป จะทำให้เครื่องยนต์จะต้องออกแรงมากกว่าปรกติ

ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะ LOAD มากกว่าปรกติและอาจจะเกิดการสึกหรอของระบบแคมชาฟท์และระบบวาล์วมากกว่าปรกติในภายหลังได้ ตรงนี้แหละคือเหตุผลของผมจึงบอกว่ามุม 45 องศาเป็นมุมที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์แบบทูอินวัน เพราะถ้าเป็นมุม 35 องศาจะทำให้เขม่ามาตกค้างที่บ่าวาล์วได้มากกว่าซึ่งจะทำให้วาล์วรั่วได้โดยง่าย และถ้าเป็นมุม 50 องศานั้นก็จะทำให้รั่วได้ง่ายกว่ามุม 35 องศา

ดังนั้นจึงนำสองมุมมาแบ่งกันคงเหลือประมาณ 45 องศา ซึ่งเป็นมุมที่สามารถที่จะตัดเขม่าได้ดี นอกจากนั้นยังไม่ส่งผลต่อการบรรจุอากาศมากนักด้วย ซึ่งมุมทั้งหมดนี้ทางโรงกลึงสามารถจัดกลังได้อย่างสบายมาก เพราะเขามีเครื่องมือ “ปาดบ่าวาล์วและเจียรบ่าวาล์ว” เสร็จสรรพ หากเข้าใจในหลักการดังกล่าวแล้วสั่งให้ช่างกลึงปาดบาวาล์วได้ตามต้องการโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้ผลิต แต่หากเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบอัดอากาศแล้วแทบจะไม่จำเป็นต้องคิดค่าองศาของวาล์ว เพราะอากาศทั้งหมดจะถูกอัดด้วยระบบการอัดอากาศอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดค่าขององศาวาล์วให้ปวดหัว โดยผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับวาล์วจะต้องรู้ว่าวาล์วหมดอายุการใช้งานแล้วหรือยัง จุดสำคัญควรดูให้ชัดเจน คือ วาล์วเป็น “ตามด วาล์วบางหรือวาล์วไหม้” สำหรับวาล์วบางหรือไหม้นั้นจำเป็นมากที่จะต้องเปลี่ยนวาล์วใหม่ ส่วนตามดนั้นสามารถที่จะส่งโรงกลึงเพื่อทำการเจียรไนใหม่ หรือถ้าไม่แน่ใจก็ถามทางโรงกลึงเขาสามารถที่จะตอบคำถามเรื่องวาล์วได้ดีที่สุด และสำคัญที่สุดคือ ถ้าเจียรตัววาล์วก็ต้องปาดบ่าวาล์วไปพร้อมกันเลยที่เดียว

ไม่มีความคิดเห็น: